ARIP เคาะราคา IPO เอาใจนักลงทุน 0.90 บาทต่อหุ้น เปิดจอง 22 – 24 พ.ย. ก่อนเข้าซื้อขายใน mai วันแรก 2 ธ.ค. นี้ ประกาศครองแชมป์ธุรกิจจัดงานด้านไอทีต่อเนื่อง จากแนวคิด HYBRID MEDIA มั่นใจกระแสตอบรับดี นักลงทุนเชื่อมั่นในธุรกิจที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง พร้อมแต่งตั้ง บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้น
นายมนู เลียวไพโรจน์ ประธานกรรมการ บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) หรือ ARIP ผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสื่อด้านธุรกิจ การบริหารจัดการและเทคโนโลยีสารสนเทศ และผู้จัดงานแสดงสินค้าไอทีคอมมาร์ต เปิดเผยว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ มีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นผลมาจากความต้องการด้านการใช้งานที่หลากหลายของผู้บริโภค และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้จากเหตุผลดังกล่าวส่งผลให้บริษัทจำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพื่อต่อยอดความเป็นผู้นำในธุรกิจด้านการจัดงานแสดงสินค้าไอทีและธุรกิจสื่อ ซึ่งการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ถือเป็นก้าวที่สำคัญของบริษัท ในการที่จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน รวมทั้งเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และการดำเนินงานด้านต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“บริษัทและคณะผู้บริหารมีความตั้งใจที่จะดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง มั่นคง ด้วยการบริหารงานอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ ตามหลักบรรษัทภิบาลที่ดี อีกทั้งยังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับนักลงทุนในการลงทุนหุ้น IPO ของบริษัท”นายมนู กล่าว
นายมินทร์ อิงค์ธเนศ ประธานคณะกรรมการผู้บริหาร บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) หรือ ARIP กล่าวว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 138,400,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.25 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 34,600,000 บาท ในราคาหุ้นละ 0.90 บาท/หุ้น โดยจะทำการเสนอขายในระหว่างวันที่ 22 – 24 พฤศจิกายน 2553 และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 2 ธันวาคม 2553
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะนำไปขยายธุรกิจของบริษัทและรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ ทั้งในส่วนของการเป็นผู้นำในการจัดงานแสดงสินค้าไอที หรือ คอมมาร์ต รวมทั้งการจัดงานสัมมนาต่างๆ และการเป็นผู้นำในสื่อสิ่งพิมพ์ด้านไอที และที่สำคัญบริษัทกำลังมุ่งพัฒนาสื่อดิจิตอล ซึ่งกำลังมีบทบาทสำคัญในอนาคต เพื่อให้ธุรกิจมีความหลากหลายและครบวงจรมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การที่บริษัทเป็นผู้นำด้านข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญในการนำข้อมูลข่าวสารต่างๆมาพัฒนารูปแบบต่างให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่องของผู้บริโภค นอกเหนือจากสื่อดิจิตอลแล้ว บริษัทมีแผนที่จะทำรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับข่าวสารด้านไอที ซึ่งบริษัทเห็นว่าสื่อโทรทัศน์มีบทบาทและอิทธิพลในการนำตลาดอย่างมาก ซึ่งการพัฒนาสื่อต่างๆ จะเป็นไปตามหลักแนวคิด Hybrid media ที่จะเป็นการผสมผสานสื่อให้มีความลงตัวและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด
สำหรับปี 2553 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 225 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 14.67 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการ 3 ไตรมาสของปี 2553 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ 180 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 26.40 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าในแต่ละปี จะมีอัตรากำไรขั้นต้น ไม่ต่ำกว่า 40% เนื่องจากบริษัทสามารถควบคุมต้นทุนในการดำเนินการ และมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบของธุรกิจต่างๆให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆในปัจจุบัน
นายสมภพ กีระสุนทรพงศ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น กล่าวว่า ราคาหุ้นของ ARIP ที่เสนอขายให้กับประชาชน ถือเป็นราคาที่เหมาะสม เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัท และศักยภาพในการเติบโตของบริษัทที่ดีและต่อเนื่องมาโดยตลอด
รวมไปถึงแนวโน้มธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีการเติบโตอย่างไม่หยุดนิ่ง จะเห็นได้จากความสำเร็จในการจัดงานแสดงสินค้าไอทีคอมมาร์ตต่างๆ รวม ทั้งในส่วนกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ซึ่งการจัดงานคอมมาร์ตแต่ละครั้งในกรุงเทพฯมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาทต่อครั้ง และมีผู้เข้าชมมากกว่า 9 แสนคน ขณะที่ธุรกิจด้านสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อดิจิตอล ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจต่อไปในอนาคต น่าจะมีส่วนสำคัญที่สนับสนุนให้หุ้น ARIP เป็นที่ยอมรับและสนใจจากนักลงทุนทั้งในช่วงเสนอขาย IPO และภายหลังจากการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai แล้วอย่างแน่นอน
สำหรับการเสนอขายหุ้น IPO ของ ARIP มี บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้นและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น พร้อมด้วยบริษัทหลักทรัพย์ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) บริษัท หลักทรัพย์ เอเชีย พลัส จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ไอวี โกลบอล จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น